Research
คืนชีพตึกแถวร้อยปีสู่พิพิธภัณฑ์ชุมชนเจริญไชย ย่านเยาวราช
นักศึกษาปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แปลงโฉมพื้นที่ว่างจากเหตุเพลิงไหม้ภายในชุมชนเจริญไชยสู่ส่วนต่อขยายพิพิธภัณฑ์บ้านเก่าเล่าเรื่องที่บอกเล่าเรื่องราวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน
ณ ย่านเยาวราช ตึกแถวอายุกว่าร้อยปียืนเป็นประจักษ์พยานถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของพื้นที่

สำหรับนางสาวเจียระไนมณี สัสดีอาจ (แจน) นักศึกษาปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาคารเก่าแก่เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นประวัติศาสตร์ทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นโอกาสในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ของชุมชน
"เรามักจะมุ่งเน้นแค่การอนุรักษ์ตัวอาคาร แต่กลับลืมนึกถึงผู้คนและวิถีชีวิตที่ทำให้พื้นที่เหล่านี้มีคุณค่าทางวัฒนธรรม" น.ส.เจียระไนมณีกล่าว งานวิจัยของเธอมุ่งเน้นการฟื้นฟูชุมชนเจริญไชย ท่ามกลางความท้าทายจากการเติบโตของเมืองและการขยายเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) สถานีวัดมังกร ที่เกิดขึ้นบนพื้นที่ส่วนหนึ่งของตึกแถวชุมชน
การมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาใหม่เป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรมหรือห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ การต่อเติมตึกแถวที่ไม่เป็นระเบียบตลอดหลายปีทำให้ในปัจจุบันเกิดสภาพแวดล้อมที่แออัด และอาจส่งผลกระทบต่ออาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ได้ในอนาคตจากกระดาษไหว้เจ้าสู่เรื่องราวร่วมสมัย ข้อเสนอการออกแบบของน.ส.เจียระไนมณี แบ่งการฟื้นฟูออกเป็นสามระดับ: ระดับการวางผังบริเวณ ระดับสถาปัตยกรรม และการจัดแสดงภายใน โดยมีจุดเด่นทางสถาปัตยกรรมคือพิพิธภัณฑ์ชุมชนแห่งใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของชุมชน
"เรานำลวดลายการพับกระดาษไหว้เจ้ามาใช้ในการออกแบบผนังอาคาร" น.ส.เจียระไนมณีอธิบาย
"สิ่งนี้สร้างความแตกต่างที่โดดเด่นกับอาคารประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเน้นย้ำคุณค่าและกระตุ้นความอยากรู้เกี่ยวกับความสำคัญทางวัฒนธรรมของพื้นที่"'

สืบสานมรดกชุมชน
การปรับปรุงผังบริเวณโดยการใช้รหัสสีบนหลังคากันสาด ช่วยสะท้อนประเภทของกิจการในชุมชนเพื่อสร้างความหลากหลายในพื้นที่ เช่น สีแดงสำหรับร้านกระดาษไหว้เจ้า สีเขียวสำหรับร้านอาหาร เป็นต้น และการปรับพื้นทางสัญจรทางเท้า เป็นโทนสีน้ำตาล ที่มีลักษณะความเข้มสีต่างกันตามการเกิดของอาคารในชุมชน เพื่อแสดงอายุของอาคารในแต่ละส่วน ซึ่งการออกแบบนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้มาเยือนรับรู้ถึงประวัติของอาคาร แต่ยังรักษาเอกลักษณ์ของย่านไปพร้อมกัน
การปรับปรุงในระดับสถาปัตยกรรม โครงการนี้ได้ปรับปรุงพื้นที่ว่างที่เกิดจากเหตุไฟไหม้ตึกแถว 8 คูหา ให้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของชุมชน โดยแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนหลัก: พื้นที่สีเขียวสำหรับกิจกรรมชุมชน และอาคารพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์สามชั้นถ่ายทอดเรื่องราวของชุมชนจากปัจจุบันสู่อดีต ชั้นล่างเป็นพื้นที่ต้อนรับที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ชุมชน ชั้นที่สองนำเสนอความเชื่อและวิถีชีวิต รวมถึงการพับกระดาษไหว้เจ้าและการเฉลิมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ และชั้นบนสุดภายใต้แนวคิด "พระจันทร์แทนใจ" เป็นการนำพระจันทร์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลสำคัญของชุมชน สะท้อนบนผิวน้ำนิ่ง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้เยี่ยมชมกับประวัติศาสตร์ของพื้นที่
"สิ่งที่ทำให้โครงการนี้มีเอกลักษณ์คือการผสมผสานแนวทางการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม" น.ส.เจียระไนมณีกล่าว "เราไม่ได้แค่อนุรักษ์อาคาร แต่กำลังสร้างพื้นที่ที่รักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน เป็นการปกป้องทั้งมรดกที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้ที่ทำให้ชุมชนนี้มีความพิเศษ"
ผลงานวิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้รับทุนวิจัยมหาบัณฑิต วช. ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ รศ.ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน